ผ่าตัดกระเพาะ ลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพ

การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก (Bariatric surgery) เป็นวิธีการรักษาโรคอ้วนทางการแพทย์ สำหรับผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีความรุนแรงของโรคตามระดับของค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ใน 3 ระดับ ดังนี้

1. ผู้ป่วยโรคอ้วนรุนแรง ที่มีค่า BMI เกิน 37.5 
2. ผู้ป่วยโรคอ้วน ที่มีค่า BMI เกิน 32.5 และเป็นโรคแทรกซ้อนจากความอ้วนร่วมด้วย
3. ผู้ป่วยโรคอ้วน ที่มีค่า BMI มากกว่า 27.5 ขึ้นไป และป่วยเป็นโรคเบาหวานรุนแรง

>นอกจากการพิจารณาจากค่า BMI แล้ว ผู้ป่วยโรคอ้วนจะต้องอายุ 18 – 65 ปี ถึงจะเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักได้ เนื่องจากถ้าอายุน้อยหรือมากเกินไป จะส่งผลต่อผลลัพธ์ของการรักษา 

การรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก ศัลยแพทย์จะต้องตรวจสุขภาพและความพร้อมของร่างกาย และวินิฉัยว่าควรจะต้องผ่าตัดวิธี Sleeve gastrectomy หรือ Roux-en-Y gastric bypass เพื่อรักษาอาการที่ต้นเหตุ ทำให้ผู้ป่วยทานได้น้อย อิ่มเร็ว และลดการดูดซึมอาหาร รวมทั้ง ปรับระดับฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและความอิ่ม ส่งผลให้สุขภาพดีขึ้น สำหรับการดูแลตนเองหลังการผ่าตัด ผู้ปวยจะมีแผลเล็ก ๆ จากการสอดกล้องผ่าตัดเข้าไปบริเวณหน้าท้อง ทำให้เจ็บแผลน้อย ฟื้นตัวได้ไว ทางด้านโภชนาการ ผู้ป่วยจะต้องปรับพฤติกรรมการทานอาหาร ในตอนแรกจะทานได้แต่อาหารเหลว และหลังจากผ่าตัด 30 วัน จึงจะสามารถทานอาหารได้ตามปกติ แต่ต้องเคี้ยวอาหารให้ละเอียดที่สุดก่อนกลืน 

ผู้ป่วยจะเห็นผลลัพธ์การรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก ได้จากน้ำหนักตัวที่ลดลงตั้งแต่ในช่วงแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 6 เดือน – 2 ปีแรก น้ำหนักจะลดลงมากที่สุด หลังจากนั้น น้ำหนักตัวอาจเพิ่มขึ้นบ้างจากการควบคุมอาหาร และวินัยในการออกกำลังกาย ซึ่งผู้ป่วยที่ไม่สามารถปรับพฤติกรรม และไม่ออกกำลังกาย อาจจะทำให้กระเพาะขยายใหญ่ขึ้นเท่าเดิม และจะทำให้กลับไปอ้วนอีก