การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก เป็นวิธีการรักษาโรคอ้วนทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองว่าสามารถรักษาโรคอ้วนได้จริง และได้ผลเร็วกว่าวิธีลดน้ำหนักปกติทั่วไป โดยศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคผ่าตัดด้วยการสอดกล้องและอุปกรณ์เข้าไปบริเวณหน้าท้อง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงได้มากกว่าการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องที่ใช้ในอดีต ซึ่งช่วยลดการติดเชื้อ และลดการบาดเจ็บต่ออวัยวะภายในได้ ทั้งยังช่วยทำให้แผลหลังผ่าตัดมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็วอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักเพื่อรักษาโรคอ้วน อาจจะมีผลข้างเคียงและข้อเสียในระยะยาวได้เช่นกัน
ผลข้างเคียงและข้อเสียจากการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก
1. ภาวะขาดสารอาหาร
กลไกวิธีรักษาของการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก คือ การลดขนาดกระเพาะเพื่อให้ทานได้น้อย ซึ่งทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและวิตามินได้น้อยลง โดยหลังจากผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจร่างกายจากแพทย์ เพื่อให้ทราบว่าควรจะให้ทานวิตามินเสริมชนิดใดในช่วงแรก และเมื่อร่างกายสามารถรับสารอาหารได้มากขึ้น ก็จะทานวิตามินเสริมค่อย ๆ น้อยลง จนไม่ต้องทานวิตามินเสริมในที่สุด
2. ภาวะ Dumping Syndrome
ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่ออาหารเคลื่อนผ่านกระเพาะอาหารไปยังลำไส้เล็กเร็วเกินไป โดยที่พบบ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เหงื่อออก และใจสั่น โดยภาวะ Dumping Syndrome นี้ สามารถทำให้หายได้โดยการควบคุมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร
3. การกลับมาอ้วนอีก
หลังผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก ผู้ป่วยจะมีน้ำหนักคงที่ได้ตามที่พึงพอใจประมาณ 1 – 2 ปี โดยจะต้องปรับพฤติกรรมการทานอาหาร ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที ซึ่งหากผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ ไม่คุมอาหาร ไม่ออกกำลังกาย และไม่ไปพบแพทยตามนัด ก็จะกลับไปทำให้อ้วนอีกได้
การผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนให้คุณสุขภาพดี และมีรูปร่างที่ดีขึ้น ก่อนตัดสินใจผ่าตัด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม และตรวจร่างกายเพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนเข้ารับการรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก