ผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก ใช้สิทธิประกันสังคมร่วมได้

โรคอ้วนเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง เนื่องจากผู้ป่วยโรคอ้วนส่วนมากจะมีอาการของโรคแทรกซ้อนเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดี และปราศจากโรค ทางประกันสังคมจึงให้สิทธิผู้ประกันตนเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อรักษาโรคอ้วน ภายใต้สิทธิประกันสังคม โดยมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ผู้ประกันตนต้องปฏิบัติตาม ดังนี้

ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ 

1. เป็นผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีค่า BMI มากกว่า 37.5
2. เป็นผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีค่า BMI มากกว่า 32.5 และมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคไขมัน โรคหัวใจหรือสมอง โรคข้อเสื่อม โรคกรดไหลย้อน และโรคนิ่วในถุงน้ำดี
3. เป็นผู้ป่วยโรคอ้วนที่มีค่า BMI มากกว่า 30 และมีโรคเบาหวานที่ควบคุมด้วยการใช้ยากินหรือยาฉีดแล้ว ยังคุมระดับน้ำตาลไม่ได้

โดยผู้ป่วยโรคอ้วนที่เข้าข่ายทั้ง 3 ข้อ จะต้องพยายามลดน้ำหนักอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่ได้ผล ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดลดน้ำหนักในสถานพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม โดยอาจมีการส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมากกว่า

รายการที่ประกันสังคมครอบคลุม:

• ค่าตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด
• ค่าแพทย์ผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์
• ค่าห้องพักและค่าอาหาร
• ค่าพยาบาล

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล

• อาจมีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล
• ค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากที่ประกันสังคมกำหนด

ขั้นตอนการใช้สิทธิ

• ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวินิจฉัย
• หากเข้าเกณฑ์ สามารถรับการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม
• สถานพยาบาลต้นสิทธิประกันสังคม ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่สามารถดูแลรักษาโรคอ้วนได้อย่างครบวงจร หรือทำการย้ายสิทธิไปยังสถานพยาบาลดังกล่าว เพื่อเข้ารับการผ่าตัด และต้องรักษาที่โรงพยาบาลนี้อย่างน้อย 2 ปี เพื่อติดตามอาการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด   

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับสถานพยาบาลที่ต้องการเข้ารับการรักษา 

ผ่าตัดมั่นใจด้วยทีมแพทย์ชั้นนำ แผลเล็ก เจ็บน้อย เย็บด้วยเทคนิคพิเศษล็อค 3 ชั้น 

“คุณภาพชีวิตที่ดี เริ่มต้นที่ความกล้าที่จะเปลี่ยนตัวเอง”