การรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery) เป็นวิธีการรักษาโรคอ้วนทางการแพทย์ที่ได้ผลในระยะยาวมากที่สุด เป็นการผ่าตัดลดขนาดหรือปรับเปลี่ยนทางเดินอาหารเพื่อให้ทานอาหารได้น้อยลง อิ่มเร็วขึ้น การดูดซึมสารอาหารลดลง คุมหิวได้ มีผลทำให้น้ำหนักลดลงได้เร็ว รวมทั้งยังลดความเสี่ยงจากโรคร่วมจากความอ้วนและไขมันในร่างกายที่สูงได้
ผู้ปวยโรคอ้วนที่จะเข้ารับการรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดได้ไม่จำเป็นต้องมีน้ำหนักเกิน 100 กก. แต่ต้องมีค่า BMI เกิน 37.5 หรือ มี BMI เกิน 32.5 และมีโรคแทรกซ้อนจากความอ้วน รวมทั้งต้องอายุ 18 – 65 ปี โดยต้องได้รับการตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัดอย่างละเอียด เช่น ตรวจเลือด, ตรวจหาโรคต้องห้ามในการผ่าตัดใหญ่, ตรวจภาวะไขมันพอกตับ และนิ่วในถุงน้ำดี เป็นต้น
ส่วนหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นที่สถานพยาบาล ประมาณ 4-5 วัน หลังจากกลับไปพักที่บ้านสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ แต่ งดการออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาหักโหมหนัก ประมาณ 14-30 วัน เพื่อลดการกระทบกระเทือนของแผลผ่าตัด
การทานอาหารให้แบ่งออกเป็น 3 ช่วงระยะเวลา
1. ช่วงหลังผ่าตัด 1-14 วันแรก แนะนำให้ทานอาหาร เช่น นม หรือ โปรตีนทางการแพทย์ เพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารสามารถรับรู้ถึงอาหารที่ทานเข้าไป
2. ช่วงหลังผ่าตัด 16-30 วัน สามารถรับประทานอาหารได้ดีขึ้น เช่น ปลานึ่ง ไข่ตุ๋น แกงจึดเต้าหู้หมูสับ เป็นต้น
3. ระยะเวลามากกว่า 30 วันขึ้นไป สามารถทานได้เกือบปรกติ แต่ต้องเน้นให้เคี้ยวอาหาร นานกว่า 30-45 วินาที ถึงจะกลืนเข้าไป