การผ่าตัดรักษาโรคอ้วน (Bariatric Surgery) เป็นวิธีการรักษาโรคอ้วนที่เห็นผลได้จริงและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะโรคอ้วนรุนแรง ซึ่งการรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้น้ำหนักลดลง หายจากโรคอ้วน แต่ยังทำให้อาการของโรคแทรกซ้อนเรื้อรังที่มาจากความอ้วนลดลง หรืออาจจะหายจากโรคด้วยก็ได้ อีกทั้งยังทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น มีความกล้าจะเข้าสังคม และสามารถทำกิจกรรมที่ตอนเป็นโรคอ้วนไม่สามารถทำได้
ผู้ป่วยที่เข้าการรักษาโรคอ้วนด้วยการผ่าตัดลดน้ำหนัก ปริมาณน้ำหนักที่ลดลงจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประเภทของการผ่าตัด พฤติกรรมการทานอาหาร และวินัยของการออกกำลังกาย เป็นต้น
Lifestyle การใช้ชีวิต หลังผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก โดยการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะทำให้ Lifestyle การใช้ชีวิตต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน ดังนี้
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เนื่องจากกระเพาะอาหารมีขนาดเล็กลง จึงต้องแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ 5-6 มื้อต่อวัน ต้องเคี้ยวอาหารให้ละเอียด และไม่ดื่มน้ำพร้อมอาหาร โดยควรดื่มน้ำก่อนหรือหลังอาหารไปแล้ว 30 นาที
เลือกอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา ไข่ เต้าหู้ เป็นต้น และทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
วิตามินและแร่ธาตุเสริม เนื่องจากการดูดซึมสารอาหารลดลง ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและวิตามินบางชนิด จึงจำเป็นต้องทานวิตามินและแร่ธาตุเสริมตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น วิตามินบี 12, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม, วิตามินดี เป็นต้น
ติดตามอาการ ต้องมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง และหากมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ให้มาพบแพทย์ทันที
การออกกำลังกาย ให้เริ่มจากการเดินเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มการออกกำลังที่หนักขึ้น (ต้องปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อวางแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสม)
สร้างความมั่นใจในตนเอง เพื่อปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน
พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย และหลีกเลี่ยงการนอนดึก
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้ป่วยจะต้องปรับพฤติกรรมตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยกลับไปอ้วนอีก